info@prosofterp.com
Prosoft Asset Management
081-359-6934
Prosoft WINSpeed Cloud
081-359-6933
Menu
Home
Product
Prosoft WINSpeed Cloud
Prosoft iERP Asset
Feature
Promotion
News & Promotion
E-Newsletter
Promotion
Event
บทความที่น่าสนใจ
Blog
กฎหมาย/ภาษี
การเงินการบัญชี
เกร็ดความรู้ภาษีต่างๆ
ข้อหารือภาษีอากร
กิจการ/อื่นๆ
Services
จองอบรม Online
FAQs
คู่มือการใช้งาน
บริการ Maintenance
วิธีการชำระเงิน
Manual
Prosoft Assets Management
Prosoft WINSpeed Cloud
Help
System Requirement
Guidelines
About Us
About Us
Personal Data Protection Act
Contact Us
ทดลองใช้งานฟรี
หน้าแรก
Blog
กฎหมาย/ภาษี
อย่างไร ? จึงเป็นเงินได้พึงประเมิน
อย่างไร ? จึงเป็นเงินได้พึงประเมิน
ย้อนกลับ
หมวดหมู่บทความ
กฎหมาย/ภาษี
การเงินการบัญชี
เกร็ดความรู้ภาษีต่างๆ
ข้อหารือภาษีอากร
กิจการ/อื่นๆ
หน้าแรก
Blog
กฎหมาย/ภาษี
อย่างไร ? จึงเป็นเงินได้พึงประเมิน
อย่างไร ? จึงเป็นเงินได้พึงประเมิน
ย้อนกลับ
บริษัทนายจ้างทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพให้แก่พนักงาน มีปัญหาว่าบริษัทจะนำเงินที่จ่ายไปเป็นค่าเบี้ยประกันมาลงรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หรือไม่ และพนักงานจะต้องนำค่าเบี้ยประกันดังกล่าว มารวมเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ ถือเป็นสวัสดิการของพนักงานหรือไม่ ซึ่งการจะตอบคำถามดังกล่าวได้ต้องรู้จักความหมายของ “เงินได้พึงประเมิน” เสียก่อนแล้วจะตอบคำถามข้างต้นได้อย่างมั่นใจแน่นอน
“เงินได้พึงประเมิน” มีการกำหนดความหมายไว้ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร หมายความว่า เงินได้อันเข้าลักษณะพึงเสียภาษีในหมวดภาษีเงินได้ เงินได้ที่กล่าวนี้ให้หมายความรวมตลอดถึงทรัพย์สินหรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้รับซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน เงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงิน หรือผู้อื่นออกแทนให้สำหรับเงินได้ประเภทต่าง ๆ ตามมาตรา 40 และเครดิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ ด้วย
จากความหมายของ “เงินได้พึงประเมิน” ดังกล่าวจึงแยกลักษณะของเงินได้พึงประเมินที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้รับแล้วต้องนำมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีดังนี้
1. เงินได้พึงประเมิน 8 ประเภทตามมาตรา 40(1)-(8) แห่งประมวลรัษฎากร
2. ทรัพย์สิน
3. ประโยชน์ที่ได้รับซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน
4. เครดิตเงินปันผล
ดังนั้น ผู้มีเงินได้รับเงินได้พึงประเมินในปีภาษีใดต้องนำเงินได้พึงประเมินนั้นมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษีที่ได้รับ เว้นแต่ มีกฎหมายกำหนดให้เงินได้พึงประเมินใดได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็ไม่ต้องนำมาเสียภาษีเงินได้ ซึ่งเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีกำหนดไว้ตามมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร
จึงเห็นได้ว่า การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่ได้จำกัดเฉพาะว่าเป็นการรับเงินเท่านั้น การได้รับทรัพย์สิน เช่น ทายรางวัลผลฟุตบอลโลกได้รางวัลเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทีวี ตู้เย็น ก็ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ด้วย หรือได้รับประโยชน์ที่คำนวณได้เป็นเงิน เช่น ได้รับรางวัลให้ไปท่องเที่ยวในต่างประเทศฟรี ก็ต้องนำประโยชน์ที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศซึ่งแม้ไม่ต้องควักกระเป๋าตัวเองแม้แต่บาทเดียว ก็ต้องนำมูลค่าของประโยชน์ดังกล่าวมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้น จึงน่าจะตอบคำถามที่ตั้งไว้ข้างต้นได้ว่า การที่บริษัทนายจ้างจ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพแทนพนักงานบริษัท จึงเท่ากับว่าพนักงานของบริษัทได้รับประโยชน์ที่คำนวณได้เป็นเงิน กล่าวคือ เงินค่าเบี้ยประกันที่บริษัทนายจ้างจ่ายไปก็จะนำมาคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินของพนักงานด้วย (เป็นเงินได้ตามมาตรา 40(1) ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายตามสวัสดิการของบริษัทนายจ้างหรือไม่ก็ตาม
ส่วนบริษัทนายจ้างจะลงเป็นรายจ่ายตามความผูกพันของบริษัทนายจ้างหรือไม่ ถ้าจ่ายตามระเบียบสวัสดิการของบริษัทที่ได้ผูกพันไว้ตามระเบียบก็ลงเป็นรายจ่ายได้ แต่ถ้าไม่ได้จ่ายตามระเบียบ ก็ถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามมิให้นำมาลงเป็นรายจ่าย
อย่างไรก็ดี กรณีพนักงานหรือลูกจ้างที่นายจ้างได้ประกันสุขภาพกลุ่มให้พนักงานนั้น มีกฎหมาย ยกเว้นภาษี ให้พนักงานไม่ต้องนำค่าเบี้ยประกันสุขภาพนั้นมารวมเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษี ตามข้อ 2(77) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 126(พ.ศ. 2509 ) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ส่วนการประกันชีวิต นั้นพนักงานยังคงต้องนำเบี้ยประกันชีวิตที่นายจ้างจ่ายมารวมคำนวณเป็นเงินได้ของตนเองเพื่อเสียภาษี ไม่มีกฎหมายยกเว้นภาษี ให้แต่อย่างใด
ข
อบคุณบทความจาก ::
สรรพากรสาส์น
ประกาศบทความโดย ::
www.prosofterp.com
254
ผู้เข้าชม
สมัครรับข่าวสาร
Get started for free today.
ทดลองใช้งาน
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด
×
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี
By SoGoodWeb.com